บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มิถุนายน, 2025

นาฏศิลป์ไทย

รูปภาพ
  บทความเรื่อง: นาฏศิลป์ไทย นาฏศิลป์ไทย เป็นศิลปะการแสดงประจำชาติที่แสดงถึงเอกลักษณ์และวัฒนธรรมไทยอย่างลึกซึ้ง ประกอบด้วยท่วงท่ารำที่อ่อนช้อย สง่างาม และมีความหมายในทุกการเคลื่อนไหว โดยได้รับอิทธิพลจากศาสนา ความเชื่อ และประเพณีพื้นบ้าน นาฏศิลป์ไทยแบ่งออกได้หลายประเภท เช่น นาฏศิลป์ชั้นสูง เช่น โขน ละครใน ละครนอก และ นาฏศิลป์พื้นบ้าน เช่น ระบำ ฟ้อน รำวง ที่แสดงในงานประเพณีท้องถิ่นต่าง ๆ จุดเด่นของนาฏศิลป์ไทยคือความประณีตในท่ารำ เครื่องแต่งกาย และดนตรีประกอบ เช่น วงปี่พาทย์ ที่ช่วยเสริมอารมณ์และความไพเราะในการแสดง นาฏศิลป์ไทยไม่เพียงแต่เป็นการแสดงเพื่อความบันเทิง แต่ยังสะท้อนถึงจิตวิญญาณ ความศรัทธา และความรักในศิลปวัฒนธรรมของคนไทยที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่น

รำวงมาตรฐาน

รูปภาพ
  บทความเรื่อง: รำวงมาตรฐาน รำวงมาตรฐาน เป็นนาฏศิลป์ไทยประยุกต์ที่เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 7 และได้รับการพัฒนาอย่างเป็นรูปแบบในสมัยรัชกาลที่ 8 โดยกรมศิลปากร เพื่อส่งเสริมความสนุกสนานและความสามัคคีในสังคมไทย รำวงมาตรฐานผสมผสานท่ารำไทยกับจังหวะดนตรีที่สนุกสนาน แสดงเป็นหมู่ชายหญิงจับคู่เต้นรำกันอย่างพร้อมเพรียง มีทั้งหมด 10 เพลง เช่น เพลงงามแสงเดือน ดอกไม้ของชาติ ใกล้รุ่ง และเพลงชาวไทย เป็นต้น ลักษณะเด่นของรำวงมาตรฐานคือ ท่ารำง่าย จังหวะสนุก ผู้ชมสามารถร่วมรำได้ เหมาะกับงานรื่นเริง งานเทศกาล และงานชุมชนต่าง ๆ รำวงมาตรฐานจึงเป็นศิลปะที่ผสมผสานความงดงามของวัฒนธรรมไทยกับความบันเทิงอย่างลงตัว และเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน

รำตระนิมิต

รูปภาพ
  บทความเรื่อง: รำตระนิมิต รำตระนิมิต เป็นนาฏศิลป์ไทยประยุกต์ที่สร้างขึ้นโดยมีแนวคิดจากจินตนาการ (“ตระนิมิต” แปลว่า จินตนาการหรือความคิดสร้างสรรค์) ผสมผสานความงดงามของท่ารำไทยกับลีลาท่าทางที่แสดงอารมณ์ ความฝัน หรือแนวคิดอย่างมีอิสระ ระบำชุดนี้ไม่ได้อิงตามรูปแบบประเพณีโบราณโดยตรง แต่เน้นการสร้างสรรค์ใหม่ให้เหมาะสมกับยุคสมัย โดยยังคงเอกลักษณ์ความอ่อนช้อยแบบไทย มีการแต่งกายที่หลากหลายตามเนื้อหาที่นำเสนอ และอาจใช้ดนตรีไทยประยุกต์ร่วมกับดนตรีสากล รำตระนิมิตมักใช้แสดงในเวทีศิลปะร่วมสมัย หรือในการประกวดนาฏศิลป์ เพื่อแสดงถึงความคิดริเริ่มและการตีความใหม่ของวัฒนธรรมไทยในบริบทที่กว้างขึ้น การรำชุดนี้จึงเป็นตัวอย่างของการอนุรักษ์และพัฒนาศิลปะไทยให้สอดคล้องกับความคิดสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่

ระบำสี่บท

รูปภาพ
  บทความเรื่อง: ระบำสี่บท ระบำสี่บท เป็นนาฏศิลป์ไทยแบบแสดงหมู่ ที่ใช้แสดงถึงความงดงามของท่วงท่ารำไทย โดยมีต้นแบบมาจาก “เพลงเถา” ซึ่งเป็นเพลงไทยที่มี 3 ท่อน และต่อเติมเป็น 4 ท่อนในระบำนี้ ชื่อ “สี่บท” หมายถึงการแสดงที่ประกอบด้วยเพลง 4 บท ได้แก่ บทชมธรรมชาติ บทชมความงามหญิงไทย บทพรรณนาเครื่องแต่งกาย และบทสรุปการแสดง นักแสดงจะร่ายรำอย่างอ่อนช้อย สง่างาม แสดงความพร้อมเพรียงในแบบแผนของนาฏศิลป์ชั้นสูง ระบำสี่บทมักแสดงโดยหญิงล้วน แต่งกายด้วยชุดไทยสีสันสวยงาม สื่อถึงความอ่อนหวานและเรียบร้อยของหญิงไทย เหมาะสำหรับแสดงในงานพิธีและงานต้อนรับทางวัฒนธรรม ระบำชุดนี้ถือเป็นหนึ่งในระบำมาตรฐานที่ใช้ในการเรียนการสอนนาฏศิลป์ และยังคงได้รับความนิยมในการอนุรักษ์ศิลปะไทยมาจนถึงปัจจุบัน

รำสีนวล

รูปภาพ
  บทความเรื่อง: รำสีนวล รำสีนวลเป็นนาฏศิลป์ไทยประเภทระบำที่มีลักษณะอ่อนช้อย สง่างาม และงดงามตามแบบฉบับศิลปะไทยแท้ เป็นระบำพื้นบ้านที่ได้รับการปรับปรุงให้อยู่ในรูปแบบมาตรฐาน นิยมแสดงในงานรื่นเริงหรืองานต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง จุดเด่นของรำสีนวลอยู่ที่ท่วงท่ารำที่อ่อนหวาน เคลื่อนไหวพร้อมเพรียง และแสดงออกถึงความละมุนละไมของหญิงไทย การแต่งกายของผู้แสดงมักเป็นชุดไทยประยุกต์ที่เน้นความเรียบร้อยและสง่างาม ชื่อ “สีนวล” หมายถึงความงามนุ่มนวล สีสวยนวลตา ซึ่งสะท้อนถึงจริตของนาฏศิลป์ชุดนี้ได้เป็นอย่างดี ระบำนี้มักใช้แสดงประกอบดนตรีไทยประเภทวงปี่พาทย์หรือวงเครื่องสาย รำสีนวลจึงเป็นหนึ่งในมรดกทางวัฒนธรรมที่แสดงให้เห็นถึงความงามและอ่อนช้อยของนาฏศิลป์ไทยอย่างแท้จริง

ระบำดาวดึงส์

รูปภาพ
  บทความเรื่อง: ระบำดาวดึงส์ ระบำดาวดึงส์ เป็นระบำไทยชุดหนึ่งที่มีความงดงามและทรงคุณค่าทางวัฒนธรรม จัดอยู่ในหมวดระบำเบ็ดเตล็ดหรือระบำแสดงแบบสาธิตศิลปะชั้นสูง โดยมีต้นแบบมาจากท่ารำและการแต่งกายของนางฟ้าในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ซึ่งเป็นสวรรค์ชั้นที่ 2 ตามคติในศาสนาพุทธและพราหมณ์ ระบำชุดนี้มักแสดงโดยนางรำหลายคน สวมเครื่องแต่งกายงดงามแบบนางฟ้า เช่น สไบ ผ้านุ่งจีบหน้านาง และประดับด้วยเครื่องหัว ท่วงท่ารำอ่อนช้อย อิงหลักนาฏศิลป์ไทยแบบโบราณ เน้นความสง่างามและความพร้อมเพรียง ระบำดาวดึงส์นิยมแสดงในงานพระราชพิธี งานวัฒนธรรม หรือการต้อนรับแขกสำคัญ เป็นการสะท้อนถึงความงดงามทางศิลปะ และแสดงถึงความเคารพในคติความเชื่อดั้งเดิมของไทย

พระลักษณ์

รูปภาพ
  บทความเรื่อง: พระลักษณ์   พระลักษณ์เป็นตัวละครสำคัญในวรรณคดีรามเกียรติ์ของไทย และมหากาพย์รามายณะของอินเดีย พระองค์เป็นน้องชายของพระราม มีบทบาทเป็นนักรบผู้กล้าหาญและผู้ช่วยสำคัญในการต่อสู้กับทศกัณฐ์ อสูรร้าย พระลักษณ์เป็นที่รู้จักในความซื่อสัตย์ และความจงรักภักดีต่อพี่ชาย รวมทั้งมีความสามารถในการใช้ยุทธศาสตร์และอาวุธต่าง ๆ ในการช่วยรบปกป้องความดี พระลักษณ์ยังแสดงถึงความเสียสละและความรับผิดชอบในฐานะสมาชิกของราชวงศ์ บทบาทของพระลักษณ์ในรามเกียรติ์ช่วยเสริมความสมดุลของเรื่องราว และเน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือและความสามัคคีในการแก้ไขปัญหา พระลักษณ์จึงเป็นตัวอย่างของความภักดีและความกล้าหาญที่ยังคงได้รับการยกย่องในวัฒนธรรมไทย ผ่านงานศิลปะและการแสดงต่าง ๆ

ขุนเเผน

รูปภาพ
  บทความเรื่อง: ขุนแผน ขุนแผนเป็นตัวละครเอกจากวรรณคดีไทยเรื่อง “ขุนช้างขุนแผน” เป็นชายหนุ่มผู้มีความสามารถหลายด้าน ทั้งเป็นนักรบผู้กล้าหาญ นักรักที่มีเสน่ห์ และมีภูมิปัญญาในการใช้เวทมนตร์และคาถา ขุนแผนมีความรักลึกซึ้งต่อนางวันทอง แม้จะเผชิญกับอุปสรรคและความขัดแย้งจากขุนช้าง คู่แข่งผู้เป็นรักของนางวันทองเช่นกัน เรื่องราวชีวิตของขุนแผนเต็มไปด้วยการต่อสู้ การผจญภัย และความรักที่ซับซ้อน ขุนแผนยังเป็นสัญลักษณ์ของความกล้าหาญและความฉลาด ความสามารถในการใช้คาถาทำให้เขามีอิทธิฤทธิ์เหนือคู่ต่อสู้ และเป็นที่ยกย่องในวรรณคดีไทย เรื่องราวของขุนแผนได้รับการเล่าขานผ่านละคร นิทาน และภาพยนตร์ ทำให้เขากลายเป็นตัวละครที่ได้รับความนิยมและจดจำในวัฒนธรรมไทยอย่างยาวนาน

นางวันทอง

รูปภาพ
  บทความเรื่อง: นางวันทอง นางวันทองเป็นตัวละครสำคัญในวรรณคดีและละครพื้นบ้านไทย เรื่อง “ขุนช้างขุนแผน” นางวันทองเป็นหญิงสาวผู้มีความงดงามและเป็นที่รักของขุนแผนและขุนช้าง แต่นางต้องเผชิญกับชะตากรรมที่ซับซ้อนและความรักที่ขัดแย้ง นางวันทองถูกเข้าใจผิดและถูกกล่าวหาว่าไม่ซื่อสัตย์ ทำให้เธอต้องเผชิญกับความทุกข์และความไม่เป็นธรรมในชีวิต เรื่องราวของนางวันทองสะท้อนถึงความเจ็บปวดของผู้หญิงในสังคมและการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม นางวันทองยังเป็นสัญลักษณ์ของความงาม ความรัก และความเศร้าโศกในวรรณคดีไทย รวมถึงเป็นตัวแทนของความซับซ้อนในความสัมพันธ์ของมนุษย์ เรื่องราวของนางวันทองถูกนำเสนอในรูปแบบต่างๆ เช่น ละครเพลง และละครเวที ทำให้เธอเป็นตัวละครที่มีชีวิตชีวาและน่าจดจำในวัฒนธรรมไทย

พระราม

รูปภาพ
  บทความเรื่อง: พระราม พระราม เป็นพระเอกในวรรณคดีรามเกียรติ์ของไทย และเป็นองค์พระมหากษัตริย์ในมหากาพย์รามายณะของอินเดีย พระรามเป็นสัญลักษณ์ของความดี ความยุติธรรม และความกล้าหาญ พระองค์เป็นโอรสของพระราชาในกรุงอโยธยา และมีพระมเหสีคือ นางสีดา เรื่องราวของพระรามเน้นการต่อสู้เพื่อรักษาความดี และช่วยเหลือนางสีดาจากการถูกลักพาตัวโดยทศกัณฐ์ อสูรร้ายผู้ปกครองกรุงลงกา พระรามได้รับความช่วยเหลือจากหนุมานและเหล่าวานรในการผจญภัยครั้งนี้ พระรามถือเป็นแบบอย่างของผู้นำที่มีคุณธรรม มีความรับผิดชอบ และเสียสละเพื่อประโยชน์ของผู้อื่น วรรณคดีรามเกียรติ์จึงสอนเรื่องคติธรรมผ่านการกระทำของพระราม พระรามยังเป็นที่เคารพในวัฒนธรรมไทย และปรากฏในงานศิลปะ การแสดง และพิธีกรรมต่างๆ อย่างกว้างขวาง

นางสีดา

รูปภาพ
  บทความเรื่อง: นางสีดา นางสีดา เป็นนางเอกสำคัญในวรรณคดีรามเกียรติ์ของไทย เป็นพระชายาของพระราม ผู้เป็นตัวแทนของความงาม ความดี และความจงรักภักดี นางสีดาถูกทศกัณฐ์ อสูรร้ายลักพาตัวไปยังกรุงลงกา ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวการผจญภัยของพระรามและหนุมานเพื่อช่วยนาง นางสีดามีบุคลิกที่อ่อนโยน แต่เข้มแข็ง มีความสัตย์ซื่อและยึดมั่นในคุณธรรม แม้ต้องเผชิญกับความยากลำบากมากมาย นางเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์และความรักแท้ที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลง เรื่องราวของนางสีดาถูกถ่ายทอดผ่านการแสดงโขนและนาฏศิลป์ไทย รวมถึงเป็นแรงบันดาลใจให้กับงานศิลปะและวรรณกรรมหลายชิ้นในวัฒนธรรมไทย นางสีดาจึงไม่เพียงแต่เป็นตัวละครในตำนาน แต่ยังเป็นแบบอย่างของความดีงามที่ได้รับการยกย่องและจดจำมาอย่างยาวนาน

รามเกียรติ์

รูปภาพ
  บทความเรื่อง: รามเกียรติ์ รามเกียรติ์ เป็นวรรณคดีเอกของไทยที่ดัดแปลงมาจากมหากาพย์รามายณะของอินเดีย เป็นเรื่องราวของการต่อสู้ระหว่างความดีและความชั่ว ผ่านตัวละครสำคัญอย่าง พระราม นางสีดา และทศกัณฐ์ เรื่องรามเกียรติ์บอกเล่าการเดินทางของพระรามในการช่วยนางสีดาที่ถูกทศกัณฐ์ อสูรร้ายจับตัวไป โดยมีหนุมานและเหล่าวานรเป็นผู้ช่วยสำคัญ การผจญภัยครั้งนี้เต็มไปด้วยความกล้าหาญ ความเสียสละ และคุณธรรม รามเกียรติ์มีบทบาทสำคัญในวัฒนธรรมไทย ทั้งในด้านศิลปะการแสดง เช่น โขน และนาฏศิลป์ รวมถึงวรรณกรรม เป็นตัวแทนของคุณค่าทางศีลธรรมและความเชื่อที่สืบทอดกันมาช้านาน วรรณคดีเรื่องนี้ไม่เพียงแต่เป็นความบันเทิง แต่ยังเป็นเครื่องมือในการสอนคติธรรมและประวัติศาสตร์ของสังคมไทยอีกด้วย

รามสูร

รูปภาพ
  บทความเรื่อง: รามสูร รามสูร เป็นยักษ์ในตำนานพื้นบ้านไทยที่ปรากฏในเรื่อง “เมขลา–รามสูร” ซึ่งเป็นนิทานพื้นบ้านที่อธิบายปรากฏการณ์ฟ้าแลบฟ้าร้องตามความเชื่อโบราณ ตามตำนาน รามสูรเป็นยักษ์ที่มีพละกำลังมหาศาลและถือขวานเป็นอาวุธ เขาหลงรักนางเมขลา นางฟ้าผู้งดงามที่มีลูกแก้ววิเศษเปล่งแสงเจิดจ้า รามสูรพยายามจับตัวนาง แต่ไม่เคยทัน เพราะนางเมขลาจะใช้แสงลูกแก้วล่อให้รามสูรสับสน รามสูรจึงโมโห ขว้างขวานขึ้นฟ้า กลายเป็นเสียงฟ้าร้อง และแสงจากลูกแก้วของเมขลากลายเป็นฟ้าแลบ เรื่องรามสูรจึงเป็นนิทานที่มีทั้งความสนุกและแฝงคติสอนใจ สะท้อนความเชื่อและภูมิปัญญาไทยที่ใช้เรื่องเล่าอธิบายปรากฏการณ์ธรรมชาติอย่างแยบคาย

นางเมขลา

รูปภาพ
  บทความเรื่อง: นางเมขลา นางเมขลา เป็นนางฟ้าตามตำนานความเชื่อในวรรณคดีไทยและศาสนาพราหมณ์ มักถูกกล่าวถึงคู่กับยักษ์รามสูร โดยมีชื่อเสียงจากเรื่องเล่า “เมขลา-รามสูร” ที่เกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์ฟ้าผ่าและฟ้าแลบ ตามตำนาน นางเมขลาเป็นนางฟ้าผู้มีความงดงามและว่องไว ได้ครอบครองลูกแก้ววิเศษที่สามารถเปล่งแสงสว่างจ้า รามสูรซึ่งเป็นยักษ์ เกิดหลงรักนางจึงพยายามจับตัว แต่นางเมขลากลับใช้ลูกแก้วหลอกล่อให้รามสูรตามไม่ทัน และเกิดการขว้างขวาน-ขว้างแสงลูกแก้วใส่กัน กลายเป็นที่มาของฟ้าแลบฟ้าร้องในธรรมชาติ เรื่องนางเมขลาจึงเป็นทั้งตำนานอธิบายธรรมชาติและเป็นบทเรียนเรื่องไหวพริบ ปัญญา และความดีงามที่ชนะพลังร้ายแรงได้อย่างแยบยล

นางไอ่คำ

รูปภาพ
  บทความเรื่อง: นางไอ่คำ นางไอ่คำ เป็นตัวละครเอกในตำนานพื้นบ้านของภาคอีสาน โดยเฉพาะในเรื่อง “พญาคันคาก” ซึ่งเป็นนิทานที่สะท้อนความเชื่อและวัฒนธรรมของชาวลุ่มน้ำโขงในอดีต นางไอ่คำเป็นธิดาของพระราชาผู้ปกครองเมืองอุดรธานี มีรูปโฉมงดงาม เป็นที่หมายปองของทั้งมนุษย์และพญานาค วันหนึ่งพญานาคนามว่า “สุทโธนาค” หรือ “พญานาคคำ” หลงรักนางไอ่คำ จึงจำแลงกายเป็นชายหนุ่มรูปงามขึ้นมาบนโลกมนุษย์ และพานางลงไปยังเมืองบาดาลใต้แม่น้ำโขง เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างโลกมนุษย์กับเมืองนาค และนำไปสู่การต่อสู้ของพญาคันคาก (คางคก) กับพญานาคในเวลาต่อมา ตำนานนางไอ่คำจึงไม่ใช่เพียงเรื่องความรัก แต่ยังสะท้อนความเชื่อเรื่องโลกใต้พิภพ การอยู่ร่วมกับธรรมชาติ และความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างลึกซึ้ง

ภูตเเม่น้ำโขง

รูปภาพ
  บทความเรื่อง: ภูตแม่น้ำโขง ภูตแม่น้ำโขง คือสิ่งลี้ลับที่เล่าขานกันมาช้านานในตำนานพื้นบ้านของชาวลุ่มน้ำโขง ทั้งในไทย ลาว และกัมพูชา มักถูกเชื่อว่าเป็นวิญญาณหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่สิงสถิตอยู่ในแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญของภูมิภาค ตามความเชื่อดั้งเดิม ภูตแม่น้ำโขงมีทั้งฝ่ายดีและฝ่ายร้าย บางตำนานเล่าว่าเป็นผู้ปกป้องแม่น้ำ ช่วยดูแลชาวเรือและชาวประมงให้ปลอดภัย บางเรื่องก็เล่าว่าเป็นวิญญาณเร่ร่อนของผู้ที่เสียชีวิตในแม่น้ำ ซึ่งอาจมาหลอกหลอนผู้คน ความเชื่อนี้ยังเกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์ลึกลับต่าง ๆ เช่น บั้งไฟพญานาค ที่ชาวบ้านเชื่อว่าเกี่ยวข้องกับพญานาค หรือภูตแห่งแม่น้ำโขงที่ต้องการแสดงฤทธิ์ ภูตแม่น้ำโขงจึงเป็นส่วนหนึ่งของความเชื่อและวัฒนธรรมพื้นถิ่นที่สะท้อนความเคารพและความกลัวต่อธรรมชาติ โดยเฉพาะแม่น้ำอันยิ่งใหญ่นี้ ที่ยังคงเต็มไปด้วยเรื่องเล่าชวนพิศวงมาจนถึงปัจจุบัน

กำเนิดนางอัปสรา

รูปภาพ
  บทความเรื่อง: กำเนิดนางอัปสรา นางอัปสรา เป็นนางฟ้าหรือนางสวรรค์ตามความเชื่อในศาสนาฮินดูและพุทธ มักปรากฏในตำนานและศิลปะของอินเดียและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น เขมร ไทย และบาหลี ตำนานกล่าวว่า นางอัปสราทั้งหลายถือกำเนิดจากฟองน้ำอมฤตในเหตุการณ์ “กวนเกษียรสมุทร” ซึ่งเป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์ที่เหล่าเทพและอสูรร่วมกันกวนมหาสมุทรเพื่อนำน้ำอมฤตมาใช้ให้เป็นอมตะ ขณะกวนสมุทรนั้น สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ก็ปรากฏขึ้น รวมถึงนางอัปสราที่เกิดขึ้นมาพร้อมความงดงามเย้ายวนใจ นางอัปสรามีบทบาทเป็นนางรำบนสวรรค์ มักแสดงการฟ้อนรำเพื่อถวายแด่เทพเจ้า และปรากฏในงานศิลปะต่าง ๆ เช่น ประติมากรรม นาฏศิลป์ และวรรณคดี โดยเฉพาะในปราสาทหินเขมร เช่น นครวัด จะมีภาพแกะสลักนางอัปสราอย่างวิจิตรงดงาม นางอัปสราจึงเป็นสัญลักษณ์ของความงาม ความอ่อนช้อย และพลังแห่งศิลปะที่อยู่เหนือโลกมนุษย์

องค์ศรีเทพ

รูปภาพ
บทความเรื่อง: องค์ศรีเทพ องค์ศรีเทพเป็นเทพเจ้าสำคัญในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และมีบทบาทในศิลปะและความเชื่อของไทยโบราณ โดยเฉพาะในสมัยทวารวดีและเขมร องค์ศรีเทพมักถูกเชื่อมโยงกับเทพวิษณุหรือเทพผู้พิทักษ์โลก ในศิลปกรรมโบราณ องค์ศรีเทพมักปรากฏในรูปของบุรุษที่มีลักษณะสง่างาม ทรงเครื่องอย่างกษัตริย์ หรือในบางครั้งอาจมีสี่กรถือตราสัญลักษณ์ของเทพวิษณุ เช่น จักร สังข์ คฑา และดอกบัว สถานที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับองค์ศรีเทพคือ “เมืองศรีเทพ” จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นแหล่งโบราณคดีสำคัญ และเคยเป็นศูนย์กลางความเจริญของอารยธรรมในภูมิภาคตอนบนของไทย องค์ศรีเทพจึงเป็นทั้งสัญลักษณ์ของความศักดิ์สิทธิ์และมรดกทางวัฒนธรรม ที่สะท้อนถึงความเชื่อ ความศรัทธา และศิลปะในอดีตของไทยอย่างลึกซึ้ง

ทวารวดี

รูปภาพ
  บทความเรื่อง: อารยธรรมทวารวดี อารยธรรมทวารวดีเป็นอารยธรรมโบราณที่เจริญรุ่งเรืองในแถบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ระหว่างพุทธศตวรรษที่ 11–16 โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองนครปฐม เชื่อกันว่าได้รับอิทธิพลจากอินเดีย โดยเฉพาะศาสนาพุทธนิกายเถรวาท ลักษณะเด่นของอารยธรรมทวารวดีคือการสร้างพระพุทธรูปแบบอินเดียตอนใต้ การสร้างสถูปแบบกลม การใช้อักษรปัลลวะ และการทำเครื่องปั้นดินเผา นอกจากนี้ยังพบเหรียญตรา ศิลาจารึก และเครื่องประดับที่แสดงให้เห็นถึงความเจริญทางการค้าและวัฒนธรรม ทวารวดีเป็นรัฐแรก ๆ ที่นับถือพุทธศาสนาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีบทบาทสำคัญในการเผยแผ่พุทธศาสนาไปยังดินแดนอื่น อารยธรรมนี้ถือเป็นรากฐานสำคัญของความเป็นไทยในด้านศิลปะ ศาสนา และวัฒนธรรมในเวลาต่อมา

ประวัติส่วนตัว

รูปภาพ
 นางสาว เจนนี่ จันทร์แดง   ชื่อเล่น เจนนี่  อายุ18ปี